วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

Girls' Generation


เกิลส์เจเนอเรชัน (เกาหลี소녀시대ฮันจา: 少女時代MC: So Nyuh Shi Dae; อังกฤษGirls' Generation) เป็นกลุ่มศิลปินหญิงเกาหลีจำนวน 9 คน สังกัดSM Entertainment ซึ่งเริ่มเปิดตัวในปี พ.ศ. 2550 โดยมีสมาชิกในวงได้แก่ แทยอน (หัวหน้าวง) เจสสิก้า ซันนี่ ทิฟฟานี่ ฮโยยอน ยูริ ซูยอง ยุนอา และซอฮยอน
นอกจากชื่อทางการที่ใช้เรียกขานวงนี้ ยังมีชื่ออื่น ๆ ได้แก่ โซชิ (소시; SoShi), SNSD (นอกประเทศเกาหลี โดยเป็นการนำอักษรตัวหน้าของชื่อภาษาเกาหลีมาเรียงต่อกัน) และ 少女時代 (เซ่าหนวี่ซื่อไต้ (Shàonǚ Shídài) ในจีน, Siu Nui Si Doi ในฮ่องกง และโชโจจิได (Shōjo Jidai) ในญี่ปุ่น) ทั้งนี้โดยมากชื่อ 소녀시대(โซ-นยอ-ชิ-แด) เป็นชื่อที่ใช้ในการทำกิจกรรมภายในประเทศเกาหลีใต้ มีความหมายว่ายุคสมัยของเด็กสาว แต่เมื่อทำกิจกรรมในต่างประเทศจะใช้ชื่อว่า Girls' Generation ซึ่งมีความหมายว่ายุคสมัยของเด็กสาวเช่นเดียวกัน

ประวัติ

ค.ศ. 2007-2008 : การเปิดตัวและอัลบั้มชุดแรก

ในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 โซนยอชิแดทำการได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรายการ M!Countdown ทาง M.NET อย่างไรก็ตามการแสดงในครั้งนั้นกลับไม่ได้ถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีแฟนคลับจำนวนหนึ่งได้ทำการอัปโหลดการแสดงนั้นลงในอินเทอร์เน็ต โดยเพลงที่ใช้แสดงคือเพลง "Into the New World (다시 만난 세계)" ซึ่งถือเป็นซิงเกิลเปิดตัวของพวกเธอด้วย
วันที่ 27 กรกฎาคม 2007 รายการเรียลลิตี้โชว์แนะนำตัวของโซนยอชิแดในชื่อ Girls Go to School นั้น ได้ถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ทาง Mnet จำนวนทั้งสิ้น 9 ตอน มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมาชิกแต่ละคนภายในวง และการทำภารกิจเพื่อไปออกรายการ Mnet School of Rock ให้ได้ รายการนี้ถือเป็นการแนะนำตัวโซนยอชิแดให้เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป
ซิงเกิลแรกของโซนยอชิแด "Into The New World (다시 만난 세계)" ได้ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 2007 โดยนอกจากซิงเกิลเปิดตัวแล้ว ยังมีเพลง "Beginning" และเพลง "Perfect For You (소원)" ซึ่งในภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นเพลง "Honey" ในอัลบั้มแรกของพวกเธอ "Girls' Generation" รวมทั้งมีเพลง Into The New World (다시 만난 세계) ในรูปแบบของเพลงบรรเลงรวมอยู่ด้วย
โซนยอชิแด เริ่มทำการโปรโมตซิงเกิลของพวกเธอทันทีที่ออกวางจำหน่าย โดยในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2007 พวกเธอได้ขึ้นทำการแสดงในรายการ SBS Inkigayo ซึ่งถือเป็นการแสดงทางโทรทัศน์ครั้งแรกและเป็นวันเดบิวต์อย่างเป็นทางการของพวกเธอด้วย ต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2007 โซนยอชิแดได้ทำการแสดงสดเป็นครั้งแรกใน Show! Music Core ทาง MBC โดยการแสดงในครั้งนั้นก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก และในวันรุ่งขึ้น พวกเธอก็ได้ขึ้นทำการแสดงสดอีกครั้งใน Music Bank ทาง KBS ซึ่งก็ได้รับคำชมเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นไม่นานนัก ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 อัลบั้มแรกของโซนยอชิแดก็ได้ออกวางจำหน่าย โดยมีเพลง "소녀시대 (Girls' Generation)" เป็นซิงเกิลหลัก การโปรโมตเริ่มต้นขึ้นทันทีในต้นเดือนพฤศจิกายน และด้วยท่าเต้นที่น่ารัก ประกอบกับน้ำเสียงที่สดใส จึงส่งผลให้อัลบั้ม Girls' Generation เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน โดยมียอดจำหน่ายมากกว่า 100,000 ชุด โดยในเดือนมกราคมของปีถัดมา โซนยอชิแดก็เริ่มทำการโปรโมตซิงเกิลที่ 2 ของพวกเธอ ในเพลง "Kissing You" ซึ่งมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ก็ได้ดงแฮแห่งวงซูเปอร์จูเนียร์มาร่วมแสดงด้วย นอกจากนี้แล้วมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ยังขึ้นเป็นอันดับ 1 ของ SBS Inkigayo, M.Countdown! และ KBS Music Bank อีกด้วย
ต่อมาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 อัลบั้ม Repackage อัลบั้มชุดแรกของโซนยอชิแดได้ทำการออกวางจำหน่าย โดยมีเพลง Baby Baby เป็นซิงเกิลหลักในการโปรโมต

ค.ศ. 2009 : ปีของโซนยอชิแด

ครึ่งปีแรกกับ The 1st Mini Album : GEE

แม้ว่าจะโดนกระแสแอนตี้เป็นอย่างมากในช่วงปี 2008 แต่ในต้นปี 2009 โซนยอชิแดก็ได้ออกมินิอัลบั้มชุดที่ 1 โดยมีซิงเกิลโปรโมตชื่อว่า Gee ทันทีที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพลงไต่อันดับคว้าอันดับ 1 ได้ในหลายชาร์ต ก่อให้เกิดกระแส Gee Syndrome ไปทั้งประเทศ แม้แต่ในรายการ KBS Music Bank ซึ่งในขณะนั้น SM กำลังมีข้อพิพาทกับ KBS ส่งผลให้โซนยอชิแดไม่สามารขึ้น แสดงที่เวทีนี้ได้เป็นเวลา 3 สัปดาห์ แต่ก็สามารถคว้าอันดับที่ 1 มาได้แม้ไม่ได้ขึ้นเวที ต่อมาหลังจาก SM เคลียร์ข้อพิพาทกับข้อพิพาทกับ KBS ได้แล้ว โซนยอชิแดจึงได้ขึ้นทำการแสดงที่ Music Bank ในปลาย เดือนมกราคม และสามารถคว้าแชมป์ได้ 9 สัปดาห์ติดต่อกัน ทำลายสถิติเพลง One More Time ของ Jewelry ที่ทำไว้ที่ 7 สัปดาห์ นอกจากนี้โซนยอชิแดยังสามารถครองแชมป์ที่รายการ SBS Inkigayo ได้ ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง (ทางสถานี SBS กำหนดให้การเป็นแชมป์ติดต่อกันได้สูงสุดเพียง 3 ครั้ง)
กระแสความนิยมของโซนยอชิแดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการเชิญโซนยอชิแดไปออกรายการต่างๆมากมาย จนโซนยอชิแดได้รับฉายาว่า เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติและขึ้นสู่ตำแหน่งเกิร์ลกรุ๊ปอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ได้ อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันแฟชั่นกางเกงยีนส์สีสันสดใสในเพลง Gee ก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศ โซนยอชิแดสามารถทำยอดขายในชุดนี้ได้เกิน 100,000 ชุด แม้จะเป็นเพียงแค่มินิอัลบั้มเท่านั้น ทั้งนี้ถือได้ ว่า SM Entertainment ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาดได้เป็นอย่างดี
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2009 โซนยอชิแดได้มาทำการแสดงใน SM Town Live'08 ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และนั่นทำให้พวกเธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย และพวกเธอได้มาเมืองไทย อีกครั้งเพื่อร่วมแสดงในงาน Pattaya International Music Fesitval 2009 ในเดือนมีนาคม

ครึ่งปีหลัง (ช่วงแรก) กับ The 2nd Mini Album : Genie

โซนยอชิแดได้ยุติการโปรโมตในมินิอัลบั้มชุดแรกในเดือนมีนาคม แต่หลังจากนั้นปลายเดือนมิถุนายน พวกเธอก็กลับมาพร้อมกับมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ที่มีซิงเกิลโปรโมตชื่อว่า Tell Me Your Wish (Genie) พร้อมลุคใหม่ชุดทหารกางเกงขาสั้น เพลง Tell Me Your Wish นั้น ได้ทำการปล่อยให้ฟังออนไลน์ในวันที่ 22 มิถุนายน 2552 ในเวลา 10 โมงเช้า และหลังจากนั้นเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 40 นาที ก็สามารถพุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งในชาร์ตเพลง Cyworld ทันที พวกเธอใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ในการเอาชนะเพลงทั้งหมดในชาร์ต แม้ว่ามินิอัลบั้มชุดนี้จะมีปัญหาเรื่องหน้าปกที่ผู้วิจารณ์ว่ามีการนำรูป เครื่องบินรบมาใส่ไว้ตรงหน้าปก ทำให้ต้องมีการเลื่อนวางจำหน่าย และยังมีปัญหามีการละเมิดลิขสิทธิเพลงนี้ของนักร้องชาวอุซเบกิสถาน (ซึ่งภายหลังได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากต้นสังกัด และบริษัทเจ้าของซาวน์เพลงแล้วว่า ฉบับของนักร้องชาวอุซเบกิสถานนั้นเป็นฉบับที่ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ในกรณีของโซนยอชิแด ทาง SM Ent. ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) แต่ Tell Me Your Wish (Genie) ก็ไม่ได้ลดความร้อนแรงลง โดยเฉพาะซิงเกิลนี้สามารถคว้าแชมป์ KBS Music Bank ด้วยสถิติคะแนนสูงสุดถึง 17,995 คะแนน เอาชนะสถิติเดิมเพลง Mirotic ของ TVXQ ที่ทำไว้ที่ 16,404 ไปได้ ขณะที่ยอดขายของมินิอัลบั้มชุดนี้ก็ทะลุ 100,000 แผ่นอีกครั้ง (โดยใช้เวลาแค่เพียง 1 เดือนหลังจากวางขาย) นับเป็นศิลปินหญิงเพียงกลุ่มเดียวที่สามารถทำสถิติยอดขายเกินหนึ่งแสนชุดได้ ถึงสามอัลบั้มติดต่อกัน โซนยอชิแดได้ยุติการโปรโมตมินิอัลบั้มชุดที่ 2 หลังจากเริ่มโปรโมตได้ 8 สัปดาห์ และเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2009 ในงาน Dream Concert 2009 พวกเธอก็ได้ลบกระแสแอนตี้ได้จากการที่โซวอนในงานหลายพันคน เปิดแท่งไฟสีชมพูซึ่งเป็นสีประจำวง และส่งเสียงเชียร์โซนยอชิแดเป็นหนึ่งเดียว

คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรก

ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 ต้นสังกัดอย่าง SM Entertainment ได้ออกประกาศโซนยอชิแดกำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในชื่อ Girls’ Generation The 1st Asia Tour ‘Into The New World’ จัดที่สนามกีฬากรุงโซล เกาหลีใต้ในวันที่ 19-20 ธันวาคม 2009 และจะมีเอเชียทัวร์ตามเมืองต่างๆ ได้แก่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น, กรุงเทพฯ ประเทศไทย และมหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยในวันแรกที่เปิดจองบัตรที่เกาหลี บัตรคอนเสิร์ตก็ได้หมดลงภายในเวลาแค่ 3 นาที

ค.ศ. 2010 : ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

ต้นปี: อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 : Oh!

หลังจากที่ปี 2009 โซนยอชิแดได้สร้างกระแส Gee และ Genie จนโด่งดังเป็นอย่างมาก ไปจนถึงคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ต้นสังกัด SM Entertainment จึงประกาศว่าโซนยอชิแดกำลังจะออกอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในชื่อ Oh! กับภาพลักษณ์ที่โตขึ้นกว่าเดิมที่ดูเปรี้ยวขึ้น โดยมีกำหนด Comeback ในวันที่ 28 มกราคม 2010 และขึ้นเวทีเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในวันที่ 30 มกราคม 2010 โดยเมื่อทีเซอร์อัลบั้มนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 22 มกราคม เว็บไซต์ที่ปล่อยทีเซอร์นี้ออกมาถึงกับล่มเพราะมีผู้เข้าชมจำนวนมาก และเมื่อเพลง Oh! ได้ถูกปล่อยให้ดาวน์โหลดเมื่อวันที่ 25 มกราคม เพลงนี้ก็สามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ตเรียลไทม์ในเกาหลีในเวลาแค่ 10 นาที ถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของโซนยอชิแด และหลังจากที่อัลบั้มชุดนี้วางขายได้แค่ 1 เดือนก็สามารถทำยอดขายได้ทะลุ 120,000 แผ่นเลยทีเดียว
ในเดือนมีนาคม 2010 ต้นสังกัด SM Entertainment ได้ปล่อยภาพ Black Soshi ซึ่งได้ทิ้งปริศนาไว้ในท้าย MV เพลง Oh! ซึ่งแบล็ค โซชิก็คือ คอนเซปต์หลักของอัลบั้ม Repackage ของอัลบั้มชุดนี้ โดยที่โซนยอชิแดได้ปรากฏตัวในชุดสีดำสุดเซ็กซี่ โดยมีเพลงไตเติ้ลคือ Run Devil Run ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามไม่แพ้เพลง Oh! ถึงแม้จะมีปัญหาจากการที่แอนตี้แฟนออกมากล่าวหาว่าก็อปปี้เพลงของแคชช่า ซึ่งต้นสังกัดอย่าง SM Entertainment ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ฉบับของแคชช่าเป็นแค่เพลง Demo ซึ่งแคชช่าร้องไกด์ให้ผู้ที่สนใจซื้อลิขสิทธิ์ไปใช้ ส่วนของโซนยอชิแดเป็นฉบับจริงที่นำออกมาโปรโมทจริงๆ อย่างไรก็ตาม Run Devil Run ก็เหมือนกับ Tell Me Your Wish (Genie) คือ ไม่ได้ลดความร้อนแรงและโด่งดังลงไปเลย

กลางปี: โปรโมตอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่น

หลังจากสิ้นการโปรโมทอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 แล้ว SM Entertainment ต้นสังกัดที่วางแผนให้ โซนยอชิแด เตรียมเดบิวต์โปรโมตที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ในการเดบิวต์ที่ญี่ปุ่น โซนยอชิแดได้เซ็นสัญญากับ NAYUTAWAVE RECORDS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Universal Music Japan โดยใช้ชื่อว่า '少女時代' (อ่านว่า โชว-โจ-จิ-ได) ซึ่งวันที่ 11 สิงหาคม ได้เปิดตัวด้วย DVD ชุด 少女時代到来~初来日記念盤 (New Beginning of Girls' Generation) อีกทั้งจะมีงานโชว์เคส คอนเสิร์ตในวันที่ 25 สิงหาคม ที่ Ariake Coliseum ในกรุงโตเกียว ซึ่งจัดแสดงอยู่ 3 รอบด้วยจำนวนผู้ชมกว่า 21,000 คน ตามด้วยวันที่ 8 กันยายน ซิงเกิลเดบิวต์ Tell Me Your Wish (Genie) เวอร์ชันญี่ปุ่น โดยสามารถทำยอดจำหน่ายการได้เกิน 100,000 แผ่น และในวันที่ 20 ตุลาคม ก็ได้ทำการปล่อย ซิงเกิลชุดที่ 2 Gee เวอร์ชันญี่ปุ่น ซึ่งเรียกกระแสตอบรับทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกอย่างล้นหลาม นอกจากนี้กระแสตอบรับการเดวบิวต์ที่ญี่ปุ่นของโซนยอชิแด ยังเป็นที่ฮือฮาในประเทศไต้หวัน จนเป็นกระแส โซชิซินโดรม ซึ่งเพลง Genie ได้ขึ้นไปติดที่ 1 ของชาร์ตเพลงในไต้หวันถึง 2 ชาร์ตเลยทีเดียว

ปลายปี: มินิอัลบั้มชุดที่ 3 : Hoot (훗)

ในวันที่ 27 ตุลาคม ทาง SM Entertainment ได้ปล่อยมินิอัลบัมชุดที่ 3 ในชื่อ Hoot (훗) โดยได้ปล่อยซิงเกิล Hoot ในวันที่ 25 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ทางเว็บไซต์เพลงออนไลน์ โดยหลังจากปล่อยซิงเกิลนี้ไม่ถึง 7 นาที ก็ได้ทะยานขึ้นไปใน 7 ชาร์ตเพลงหลักของเกาหลี วันรุ่งขึ้น SM Entertainment ก็ได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอ เพลง Hoot ทางหน้าแรกของ SM และทาง Youtube โดยมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ยังได้ ซีว็อน วงซูเปอร์จูเนียร์ มาร่วมแสดงด้วย ต่อมา ในไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอไป ก็มียอดผู้ชมมากกว่า 1 ล้านครั้งใน Youtube

2011

ซิงเกิลญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว: Mr.Taxi

เดือนมกราคมปี 2011 Universal Music ต้นสังกัดในญี่ปุ่นได้ปล่อยดิจิตอลซิงเกิลใหม่คือเพลง Run Devil Run ในเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น โดยปล่อยในลักษณะ Ringtone และในเดือนมีนาคม Universal Music ก็ประกาศว่าโซนยอชิแดจะปล่อยซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวในชื่อ Mr.Taxi โดยมีเพลง Run Devil Run เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย ในวันที่ 13 เมษายน แต่เนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ส่งผลให้การวางจำหน่ายซีดีซิงเกิลต้องเลื่อนออกไป โดยได้ปล่อยดาวน์โหลดเพลง Mr.Taxi และปล่อย MV เพลง Run Devil Run เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นออกมาในช่วงกลางเดือนเมษายน และมีกำหนดวางแผ่นซีดีซิงเกิลในวันที่ 27 เมษายน

อัลบั้มเต็มภาษาญี่ปุ่นชุดแรก: Girls' Generation

ในเดือนมิถุนายน โซนยอชิแดได้ทำการวางจำหน่ายอัลบั้มเต็มภาษาญี่ปุ่นชุดแรกในชื่อ Girls’ Generation โดยเมื่ออัลบั้มชุดนี้วางแผงไปได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์ก็ทำยอดขายทะลุ 100,000 แผ่นและทำยอดขายทะลุ 300,000 แผ่นในเวลาเพียง 1 เดือนเศษ โดยในอัลบั้มชุดนี้ประกอบไปด้วย 12 เพลงรวมทั้งเพลง Mr.Taxi, Genie Gee, Run Devil Run รวมถึงเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นของเพลง Hoot และเพื่อเป็นการโปรโมตอัลบั้ม โซนยอชิแดได้จัดทัวร์คอนเสิร์ตในชื่อ Girls' Generation The 1st Japan Arena Tour ขึ้นใน 6 เมืองทั่วญี่ปุ่นคือ โอซากา, ไซตะมะ, โตเกียว, ฮิโรชิม่า, นาโกย่า และฟูกูโอกะ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

คอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ครั้งที่ 2

หลังจากสิ้นสุดการทัวร์คอนเสิร์ตในญี่ปุ่น ต้นสังกัดที่เกาหลีอย่าง SM Entertainment ก็ได้ประกาศว่าโซนยอชิแดจะจัดคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ครั้งที่ 2 ในชื่อ 2011 Girls' Generation Tour โดยเริ่มที่เกาหลีใต้ในวันที่ 23-24 กรกฎาคม ต่อด้วยประเทศไต้หวันในวันที่ 9-11 กันยายน ประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 9-10 ธันวาคม เกาะฮ่องกงในวันที่ 15 มกราคม 2012 ก่อนจะปิดท้ายที่ประเทศไทยในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012 โดยเพลงส่วนใหญ่ในคอนเสิร์ตจะเป็นเพลงที่ใช้ในการแสดงคอนเสิร์ต Japan Arena Tour

อัลบั้มเต็มชุดที่ 3: The Boys

ในช่วงเดือนสิงหาคม SM Entertainment ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าในต้นเดือนตุลาคม โซนยอชิแดจะกลับสู่วงการเพลงเกาหลีอีกครั้งกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 โดยภาพทีเซอร์ภาพแรกได้ถูกปล่อยออกมาเมื่อปลายเดือนกันยายน โดยเป็นรูปของแทยอนในมาดเจ้าหญิงแสนเศร้า และได้เปิดเผยชื่ออัลบั้มชุดนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า The Boys หลังจากนั้นจึงทยอยปล่อยภาพของสมาชิกคนอื่นๆ โดยคอนเซปต์ของอัลบั้มนี้คือ Worldwide โดยโซนยอชิแดจะมาในมาดเจ้าหญิง 9 คนที่แตกต่างกันไปตามคอนเซปต์ของแต่ละคน โดยเพลงโปรโมทชื่อเดียวกันนี้จะมี 2 เวอร์ชันคือภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ ซึ่งได้โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง Teddy Riley ผู้ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินชื่อดังอย่าง Michael Jackson มาร่วมเขียนเนื้อร้องและโปรดิวซ์เพลงให้ ในตอนแรก SM มีแผนจะวางแผงอัลบั้มในวันที่ 5 ตุลาคม แต่เมื่อวันที่ 30 กันยายน ต้นสังกัดได้ตัดสินใจเลื่อนการวางแผงและ Comeback เนื่องจากต้นสังกัดวางแผนว่าจะทำการวางจำหน่ายอัลบั้มนี้ในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยในที่สุด The Boys อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของโซนยอชิแดก็ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม โดยทันทีที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอใน YouTube 4 วันก็มียอดการคลิกเข้าชมสูงกว่า 10 ล้านครั้ง และหลังจากวางขายอัลบั้มไปไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 200,000 แผ่น ถือเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรกของเกาหลีที่สามารถทำยอดขายอัลบั้มได้สูงขนาดนี้ และจนถึงปัจจุบัน อัลบั้ม The Boys ก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 400,000 แผ่น
หลังจากนั้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน SM Entertainment ได้ประกาศเตรียมออกจำหน่ายอัลบั้มเวอร์ชัน B ของ The Boys ในชื่อ Mr.Taxi โดยใช้เพลง Mr.Taxi เวอร์ชันภาษาเกาหลีเป็นซิงเกิลหลักในการโปรโมต อัลบั้ม Mr.Taxi ได้ออกวางจำหน่ายในวันที่ 8 ธันวาคม โดยในอัลบั้มนี้ได้เพิ่มเพลง The Boys เวอร์ชันภาษาอังกฤษลงในอัลบั้มด้วย

2012

เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สหรัฐอเมริกา

จากการที่ต้นสังกัด SM Entertainment ได้ตัดสินใจวางขายอัลบั้ม The Boys อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของโซนยอชิแดอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา ทางต้นสังกัดจึงวางแผนให้พวกเธอได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา โดยโซนยอชิแดได้เซ็นสัญญาภายใต้สังกัด Interscope Records ซึ่งเป็นต้นสังกัดของศิลปินชื่อดังอย่าง Lady Gaga โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม โซนยอชิแดได้ทำการเดบิวต์ที่อเมริกาอย่างเป็นทางการในรายการ Late Show with David Letterman รายการทอล์คโชว์ชื่อดังในช่วง Late Night ของอเมริกา โดยซิงเกิลเดบิวต์ที่อเมริกาของพวกเธอก็คือเพลง The Boys ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ และในวันรุ่งขึ้น โซนยอชิแดก็ได้ขึ้นแสดงในรายการ Live! with Kelly ซึ่งเป็นรายการตอนเช้าชื่อดังของอเมริกา ถือว่าพวกเธอเป็นกลุ่มศิลปินจากเกาหลีใต้กลุ่มแรกที่ได้ขึ้นเวทีในรายการทอล์คโชว์ชื่อดังทั้ง 2 รายการนี้

กลุ่มย่อย

ในวันที่ 19 เมษายน SM Entertainment ต้นสังกัดในเกาหลีได้ประกาศว่าโซนยอชิแดจะเปิดตัวกลุ่มย่อยอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 3 คนคือ แทยอน, ทิฟฟานี่ และซอฮยอนในนาม แททีซอ(อังกฤษTaeTiSeo) หรือ เกิลส์เจเนอเรชัน ทีทีเอส (อังกฤษGirls' Generation-TTS) ทีเซอร์แรกของยูนิตได้ถูกเผยแพร่ใน YouTube เมื่อวันที่ 26 เมษายน โดยเป็นทีเซอร์ของแทยอน ตามด้วยทิฟฟานี่เมื่อวันที่ 27 เมษายน และปิดท้ายด้วยซอฮยอนเมื่อวันที่ 28 เมษายน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน SM Entertainment ได้ปล่อยดาวน์โหลดมินิอัลบั้มชุดนี้ผ่านทาง iTunes และในวันเดียวกันนี้ SM Entertainmet ก็ได้ปล่อยซิงเกิล Twinkle ให้ดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ต่างๆในเกาหลี โดยทันทีที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดเพลงนี้ เพลง Twinkle ก็สามารถขึ้นอันดับ 1 ของทุกชาร์ตในเกาหลีในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง และตัวอัลบั้มที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดผ่าน iTunes ยังสามารถขึ้นอันดับ 2 ในชาร์ต American iTunes Pop Album และอันดับ 4 ในชาร์ต iTunes Top Album อีกด้วย
เมื่อวันที่ 30 เมษายน SM Entertainment ก็ได้ทำการปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง Twinkle ผ่านทาง YouTube ซึ่งในมิวสิกวิดีโอนี้ได้แบคฮยอน, ชานยอล, ไค และเซฮุนจาก EXO มาร่วมแสดง โดยทันทีที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอไป 3 วันก็มียอดผู้คลิกเข้าชมกว่า 5,000,000 ครั้ง
และเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม มินิอัลบั้ม Twinkle ก็ได้ทำการออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยทันทีที่วางจำหน่ายไป 2 วันก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 24,000 แผ่น และถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำการโปรโมตอย่างเป็นทางการที่อเมริกา แต่ Twinkle ก็สามารถขึ้นชาร์ต US Billboard 200 ในอันดับที่ 126 อีกทั้งยังสามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ต Billboard's World Album และอันดับ 2 ของ Billboard Heatseekers อีกด้วย

อัลบั้มเต็มภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 2: Girls' Generation II ~Girls & Peace~

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม SM Entertainment ได้ทำการปล่อยทีเซอร์ซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นเพลงใหม่ Paparazzi โดยหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ทำการปล่อยมิวสิกวีดีโอเพลงนี้ใน 2 รูปแบบคือเวอร์ชันปกติและ Dance Version ซิงเกิลอัลบั้ม Paparazzi ได้ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนและสามารถทำยอดขายในสัปดาห์แรกถึง 92,000 แผ่น
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม Nayutawave Record ได้ทำการวางจำหน่าย DVD และ Blu-Ray รวมมิวสิกวีดีโอของโซนยอชิแดในชื่อ Girls' Generation Complete Video Collection ซึ่งเป็นการรวมมิวสิกวีดีโอทั้งเพลงภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี และมีการประกาศถึงการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ในญี่ปุ่นซี่งจะเริ่มในปี 2013
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ได้มีการวางจำหน่ายซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นลำดับที่ 5 Oh!/All My Love is For You ซึ่งเป็นการนำเพลง Oh! มาแปลงเป็นเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นพร้อมเพลงใหม่ All My Love is For You มิวสิกวีดีโอเพลง All My Love is For You ได้ถูกอัปโหลดลงในเว็บไซต์ YouTube เมื่อวันที่ 4 กันยายน ส่วนเพลง Oh! เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นได้ถูกอัปโหลดลง YouTube เมื่อวันที่ 14 กันยายน ซิงเกิลอัลบั้ม Oh!/All My Love is For You สามารถทำยอดขายในสัปดาห์แรกได้ 60,000 แผ่น และสามารถขึ้นสู่อันดับ 1 ของ Oricon Weekly Single Chart ได้ ในขณะที่ DVD Complete Video Collection สามารถทำยอดขายได้ 59,000 ชุด
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม มีการประกาศถึงซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นลำดับที่ 6 ของโซนยอชิแดซึ่งจะใช้ชื่อว่า Flower Power พร้อมประกาศเกี่ยวกับอัลบั้มเต็มภาษาญี่ปุ่นชุเที่ 2 ของโซนยอชิแดว่าจะวางจำหน่ายหลังจากวางจำหน่ายซิงเกิลอัลบั้ม Flower Power ประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม มิวสิกวีดีโอเพลง Flower Power ก็ได้ถูกอัปโหลดลงเว็บไซต์ YouTube หลังจากนั้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน Sankei Sports หนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นได้สิทธิ์ในการเผยแพร่ภาพคอนเซปต์ของอัลบั้มเต็มภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 2 ของโซนยอชิแดซึ่งใช้ชื่อว่า Girls' Generation II ~Girls & Peace~ โดยโซนยอชิแดจะมาในคอนเซปต์แอร์โฮสเตสของสายการบิน Air GG (สายการบินสมมติ)
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ซิงเกิลอัลบั้ม Flower Power ก็ได้ออกวางจำหน่าย หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน อัลบั้ม Girls' Generation II ~Girls & Peace~ ก็ได้ออกวางจำหน่าย โดยนับตั้งแต่ออกวางจำหน่าย อัลบั้มชุดนี้สามารถทำยอดขายได้กว่า 154,000 แผ่น และเพื่อเป็นการโปรโมตอัลบั้ม โซนยอชิแดจะจัดทัวร์คอนเสิร์ตในชื่อ Girls' Generation 2nd Japanese Tour ขึ้นใน 7 เมืองทั่วญี่ปุ่นคือ โกเบ, ไซตะมะ, นิงะตะ, ฟูกูโอกะ, ฮิโรชิมา, โอซากา และนาโกยา

2013

อัลบั้มเต็มชุดที่ 4: I Got A Boy

ตลอดปี 2012 มีกระแสข่าวว่าโซนยอชิแดจะกลับคืนสู่วงการเพลงเกาหลีแบบครบ 9 คนในช่วงเดือนตุลาคมปี 2012 แต่ในที่สุดพวกเธอก็ไม่ได้ Comeback สู่วงการเพลงเกาหลีแต่อย่างใด จนเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2012 มีการประกาศถึงการ Comeback ของโซนยอชิแดว่าพวกเธอจะออกอัลบั้มภาษาเกาหลีในช่วงเดือนมกราคมปีค.ศ. 2013 หลังจากนั้นในวันที่ 11 ธันวาคม 2012 ก็ได้มีการยืนยันว่าพวกเธอกำลังเตรียมงานสำหรับอัลบั้มภาษาเกาหลีชุดใหม่จริง โดยอัลบั้มจะมาในรูปแบบอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 อย่างไรก็ตาม SM Entertainment ก็ไม่ได้ยืนยันว่าพวกเธอจะกลับมาในเดือนมกราคมตามกระแสข่าวลือ
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2012 SM Entertainment ก็ได้ทำการการอัปโหลดรูปบน Facebook อย่างเป็นทางการของค่าย โดยเป็นรูปโลโก้ที่เขียนภาษาเกาหลีว่า "โซนยอชิแด" พร้อมกับตกแต่งด้วยดอกมูกุงฮวา (무궁화) หรือ Rose of Sharon ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลีอยู่รายล้อม และปีกนางฟ้าสองปีก ด้านล่างมีตัวเลขเขียนว่า 2012.12.21 10 AM สร้างความสงสัยให้กับแฟนคลับว่าจะเกี่ยวข้องกับการ Comeback ของพวกเธอหรือเปล่า
จนในที่สุด ในวันรุ่งขึ้น (21 ธันวาคม 2012) เมื่อเวลา 10.00น. ตามเวลาของประเทศเกาหลีใต้ SM Entertainment ได้เปิดตัวมิวสิกวีดีโอซิงเกิล Dancing Queen ซึ่งป็นเพลงรีเมคจากเพลง Mercy ของ Duffy โดยนำมาปรับปรุงใหม่ในสไตล์น่ารักแบบฉบับของโซนยอชิแด ซึ่งมิวสิกวีดีโอเพลงนี้ได้ถ่ายทำและบันทึกเสียงไปแล้วตั้งแต่ปี 2008 และในช่วงท้ายมิวสิกวีดีโอก็มีทีเซอร์ของเพลงใหม่คือเพลง I Got A Boy ซึ่งจะเป็นซิงเกิลหลักในการโปรโมตอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 I Got A Boy โดยอัลบั้มชุดนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม

แนวเพลง

แนวเพลงของโซนยอชิแดก็เช่นเดียวกับศิลปินเกาหลีทั่วไป นั่นก็คือแนว เค-ป็อป อันเป็นแนวเพลงที่กำลังได้รับความนิยม เพลงในลักษณะนี้มักจะมีการผสมผสานกันระหว่างดนตรี ร็อก และ อาร์แอนด์บี เพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งซิงเกิลเปิดตัวอย่างเพลง Into The New World จะเป็นเพลงในแนว K-Pop ผสม R&B เน้นในการโชว์พลังเสียงของนักร้องเสียงหลัก ซึ่งถือได้ว่าแตกต่างจากเพลง Girls' Generation ซึ่งเป็นซิงเกิลจากอัลบั้มชุดแรกของพวกเธอที่เน้นความแข็งแรงและท่วงทำนองที่ค่อนข้างเร็ว ส่วนเพลง Kissing You และ Gee ทำนองเพลงจะเป็นแนวที่ค่อนข้างสดใสและดูเด็กๆ ขณะที่เพลง Oh! จะจัดอยู่ในแนวอิเล็คโทรนิกส์ ป็อป ซึ่งยังคงความสดใสแต่แฝงไปด้วยความเข้มแข็ง ส่วนเพลง Tell Me Your Wish (Genie) และ Run Devil Run จะเป็นแนวซิงค์ป็อปที่แฝงความเซ็กซี่ทำให้พวกเธอดูโตและเปรี้ยวขึ้นจากซิงเกิลนี้ ด้านเพลง Hoot จะมีกลิ่นอายเพลงแบบตะวันตกผสมกับดนตรีแนวเค-ป็อป ทั้งนี้ Run Devil Run ยังเป็นเพลงแรกของโซนยอชิแดที่มีการแร็ป

ความสามารถทางการร้อง การเต้น และการแร็ป

เนื่องจากเป็นวงที่มีสมาชิกมากถึง 9 คน สมาชิกของโซนยอชิแดจึงมีทักษะทางการร้องที่ต่างกันไป ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถทางการร้องสูงสุดคือ แทยอน ส่วนผู้ที่มีความสามารถด้านการร้องที่โดดเด่นรองลงมาคือ เจสสิก้า, ทิฟฟานี่, ซอฮยอน และซันนี่ ตามลำดับ ส่วนในเรื่องลักษณะเสียง เจสสิก้า ซันนี่ และซูยองมีเนื้อเสียงโทนโซปราโน ฮโยยอน ยูริ และยุนอามีเนื้อเสียงโทนเมซโซ แทยอน ทิฟฟานี่ และซอฮยอนมีเนื้อเสียงโทนอัลโต
ด้านการเต้น สมาชิกที่มีความสามารถทางการเต้นสูงสุดคือ ฮโยยอน เธอสามารถเต้นได้แทบจะทุกรูปแบบ สมาชิกที่มีความสามารถทางการเต้นในระดับสูงรองลงมาจากฮโยยอนคือ ยูริ, ซูยอง, และยุนอา พวกเธอทั้ง 4 มักจะได้รับโอกาสแสดงความสามารถด้านการเต้นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะฮโยยอนและยูริ นอกจากนี้ ในเพลง Into The New World และ Tell Me Your Wish (Genie) ฮโยยอนก็ได้โชว์ความสามารถด้านนี้ในท่อนบริดจ์ของเพลงอีกด้วย
ส่วนด้านการแร็ปนั้น ในระยะแรกโซนยอชิแดไม่มีตำแหน่งแร็ปเปอร์ของวงอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งช่วงโปรโมตเพลง Run Devil Run จึงเริ่มมีความชัดเจนเรื่องสมาชิกที่เป็นแร็ปเปอร์ของวง (ในเพลงนี้ ซันนี่, ฮโยยอน และซูยองเป็นผู้ร้องท่อนแร็ปของเพลง) จนถึงช่วงโปรโมตเพลง The Boys จึงมีความชัดเจนเรื่องตำแหน่งแร็ปเปอร์ของวงมากขึ้น โดยโซนยอชิแดมีแร็ปเปอร์ทั้งสิ้น 5 คนคือ ฮโยยอน, ทิฟฟานี่, ซูยอง, ยูริ และยุนอา ซึ่งผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถด้านการแร็ปสูงที่สุดในวงก็คือ ฮโยยอน ล่าสุดฮโยยอนได้มีผลงานแร็ปในเพลง MAXSTEP

สมาชิก

ชื่อในวงการชื่อจริงวันเกิดตำแหน่งในวง
ไทยเกาหลีไทยเกาหลี
แทยอน태연คิม แทยอน김태연9 มีนาคม ค.ศ. 1989 (23 ปี)หัวหน้าวง, นักร้องเสียงหลัก
เจสสิก้า제시카เจสสิก้า จอง, จอง ซูยอน제시카 정, 정수연18 เมษายน ค.ศ. 1989 (23 ปี)นักร้องเสียงหลัก
ซันนี่써니อี ซุนคยู이순규15 พฤษภาคม ค.ศ. 1989 (23 ปี)นักร้องนำ
ทิฟฟานี่티파니สเตฟานี่ ฮวัง, ฮวัง มียอง스테파니 황, 황미영1 สิงหาคม ค.ศ. 1989 (23 ปี)นักร้องเสียงหลัก, แร็ปเปอร์
ฮโยยอน효연คิม ฮโยยอน김효연22 กันยายน ค.ศ. 1989 (23 ปี)นักเต้นหลัก, นักร้องสนับสนุน, แร็ปเปอร์หลัก
ยูริ유리ควอน ยูริ권유리5 ธันวาคม ค.ศ. 1989 (23 ปี)นักเต้นนำ, นักร้องเสริม, แร็ปเปอร์
ซูยอง수영ชเว ซูยอง최수영10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 (22 ปี)นักเต้นนำ, นักร้องเสริม, แร็ปเปอร์
ยุนอา윤아อิม ยุนอา임윤아30 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 (22 ปี)นักเต้นนำ, นักร้องสนับสนุน, แร็ปเปอร์
ซอฮยอน서현ซอ จูฮยอน서주현28 มิถุนายน ค.ศ. 1991 (21 ปี)นักร้องนำ,คอรัส

กลุ่มย่อย

ยูนิตสมาชิกผลงานเพลง
Girls' Generation TTS
(TaeTiSeo)
2012-Present
  1. Twinkle EP

วลีประจำวง

지금은 소녀시대 , 앞으로도 소녀시대 , 영원히 소녀시대
จิกึมมึน โซนยอชิแด ,อาพือโรโด โซนยอชิแด ,ยองวอนฮี โซนยอชิแด
ตอนนี้ โซนยอชิแด ,พรุ่งนี้ โซนยอชิแด ,โซนยอชิแด ตลอดไป
Right now it's Girls' Generation , It's Girls' Generation from now on! , It'll be Girls' Generation forever


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนผู้เข้าชม